OS M*Tum & Tong*Prince
เอ็มตอง??
-Prince Part-
"ป๋า พี่ตอง ผมกับไอ้ปริ๊นจะไปเล่นบ้านพี่ก้องพี่ตังนะ อยู่ด้วยกันอย่าตีกันล่ะ"
นั่นคือสิ่งที่คนข้างๆผมบอกกับผู้ชายสองคนขณะที่พวกเรายืนคุยกันอยู่ตรงประตูบ้านพัก อ่อ ผมคงยังไม่ได้บอกทุกคนใช่มั้ยว่าวันนี้ผม พี่ตอง พี่เอ็มแล้วก็ไอ้ตั้มมาเข้าแคมป์เก็บตัวที่กิเลนวัลเลย์กัน แล้วพวกเราก็ได้นอนบ้านพักหลังเดียวกันด้วย~
ฟังเหมือนจะดีสินะ แต่เปล่าเลย...
"แน่นอนครับน้องตั้ม ป๋ากับไอ้ตองจะอยู่กันสงบๆ ไม่ทำของในบ้านเสียหายเด็ดขาด"
คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นป๋าของไอ้ตั้มตะเบ๊ะรับคำสั่งผู้บัญชาการ(หัวใจ)ของตัวเองจนผมกับพี่ตองได้แต่ขำท่าทีตลกๆนั้น เห็นจนชินแล้วครับแต่มันก็อดขำไม่ได้ ลองนึกดูดิว่าคนหน้าโหดๆแถมอายุย่างเข้าเลข3อย่างพี่เอ็มมาทำอะไรแบบนี้มันฮาดีจะตาย
ขนาดผมที่ปกติทำหน้าเหมือนแมวหน้าบึ้งกรัมปี้แคท(พี่ตองนิยามไว้)ยังขำก็คิดดูเถอะ...
"เฮอะ พี่จะแกล้งผมมากกว่าสิไม่ว่า"
พี่ตองว่าพร้อมกับเบ้ปากขณะที่ยืนกอดอกพิงผนังห้องด้านในอยู่ พี่เอ็มได้ยินดังนั้นก็คว้าคอพี่ตองไปล็อคไว้และหยิกแก้มอย่างสนิทสนม
"แหม~ ตองก็ว่าไปนั่น พี่แค่หยอกเล่นนิดเดียวเองงงงง"
"ปริ๊นช่วยกูด้วย ไอ้พี่เอ็มจะฉีกแก้มกูT_T"
พี่ตองหันมาโอดครวญกับผมพลางมือก็พยายามดันมือคุณป๋าของตั้มออกไป
"พอเลยๆ ทั้งคู่นั่นละ"
ผมว่าพลางเดินไปแยกทั้งสองคนออกจากกันก่อนที่แก้มพี่ตองจะฉีกจริงๆ
"โตขนาดนี้แล้วยังเล่นกันเป็นเด็กๆอยู่ได้ นี่พวกผมเอาพี่สองคนเป็นแฟนได้ไงวะ"
"ไปรำลึกความหลังกันในห้องมั้ยจ๊ะที่รัก"
พี่ตองว่าพลางทำท่าจะจูงมือผมเข้าไปในบ้าน ผมรีบชักมือหนีก่อนจะเปลี่ยนเป็นเขย่งขึ้นไปดีดหน้าผากไอ้คนกะล่อนแทน
เพี๊ยะ!!
"โอ๊ยยย เจ็บนะไอ้ปริ๊น!!"
"เจ็บไปก็ไม่เห็นเคยจำสักที นี่สมองพี่อยู่ใต้สะดือรึไง"
"นั่นสิ พวกสมองอยู่ใต้สะดือ"
เสียงไอ้ตั้มครับ มันฟังผมกับพี่ตองทะเลาะกันแล้วเอาคำพูดผมไปพูดให้ป๋าของมันได้ยิน พี่เอ็มนี่หน้างอเลย
"ทำไมน้องตั้มว่าป๋างี้อ่ะ"
"ป๋ากะพี่ตองก็พอๆกันน่ะแหละ"
"ใครว่าพอๆกัน สมองป๋าใหญ่กว่าสมองไอ้ตองเยอะ"
"ทำไมพี่พูดแมวๆแบบนี้ล่ะ ยังไม่เคยเห็นซักหน่อย!!"
"งั้นมาวัดกันมั้ยล่ะ!?"
"ได้เสียเซ่!!"
"อย่าแม้แต่จะคิดเชียว!!"
ผมกับไอ้ตั้มพูดพร้อมกันก่อนจะรีบเข้าไปคว้ามือแฟนของตัวเองเมื่อพ่อคุณทั้งสองคนตั้งท่าจะถอดกางเกงโชว์สมองตัวเอง ดีว่าบ้านพักพวกผมอยู่ไกลกว่าบ้านหลังอื่นหน่อยเลยไม่ค่อยมีใครได้ยินพวกเราคุยกัน ไม่งั้นป่านนี้คงมานั่งดูเป็นหนังกลางแปลงกันไปแล้ว
"เข้าบ้านไปเลยทั้งสองคนอ่ะ ผมจะได้ล็อคประตู"
ไอ้ตั้มว่าพลางดันหลังทั้งสองคนเข้าไป ป๋าของมันเข้าไปข้างในอย่างว่าง่าย แต่แฟนผมดันขืนตัวไว้ไม่ยอมเข้าเหมือนอยากถามอะไรบางอย่าง
"ทำไมต้องล็อคประตูวะไอ้ตั้ม"
"กันพี่กับป๋าออกไปลั้นลาข้างนอกไง พวกผมไม่อยู่ก็ดี๊ด๊าเป็นปลากระดี่กันตลอดอ่ะ วันนี้ขอลองขังคิงคองกับเป็ดไว้ด้วยกันซักวันจะเป็นไรไป"
"คำก็คิงคองสองคำก็คิงคอง หน้ากูเหมือนคิงคองขนาดนั้นเลย?"
พี่ตองชี้หน้าตัวเองพลางทำหน้ากวนๆใส่ไอ้ตั้ม เจ้าของฉายาอัลปาก้ายักไหล่ก่อนจะหันมาทางผม
"ถามแฟนพี่ดิ"
"ไอ้ปริ๊นกูเหมือนคิงคองมั้ยวะ"
พี่ตองหันมาภามผมด้วยใบหน้าจริงจังและใช้สายตาประมาณว่า'ถ้ามึงตอบไม่ถูกใจกูกูจะกินหัวมึง'
ผมไม่ใช่พวกชอบโกหก แต่ก็ไม่ชอบพูดจาทำร้ายจิตใจคนที่ตัวเองรักเหมือนกัน ดังนั้นถ้าผมจะตอบไปอ้อมๆก็คงไม่ผิดสินะ:p
"พี่จำตอนเราสองคนไปเที่ยวสวนสัตว์ได้ป่ะ ที่เดินผ่านกรงลิงแล้วฝรั่งยื่นกล้วยให้พี่อ่ะ"
"ไอ้แฟนเลววววว!!-0-+"
พี่ตองโวยวายทันทีที่ผมพูดจบและตั้งท่าจะเข้ามากินหัวผมจริงๆ แต่พี่เอ็มที่เดินมาตอนไหนไม่รู้ก็มาล็อคคอพี่ตองออกไปพร้อมกับเขกหัวพี่ตองแทนผมหนึ่งที
"อยู่เฉยๆไม่ทำให้พี่หนักใจซักวันเป็นมั้ยวะ? จ้องแต่จะกินหัวชาวบ้านเนี่ย สรุปเป็นคิงคองหรือเป็นหมา?"
"ผมไม่ใช่คิงคองซะหน่อยยยย"
พี่ตองอาละวาดเป็นเด็กโดนขัดใจก่อนจะถูกพี่เอ็มลากเข้าไปในบ้านอย่างทุลักทุเล
"ดูแลกันดีๆนะพี่ ห้ามทะเลาะกันนาาาา"
ผมตะโกนเข้าไปในบ้านก่อนที่พี่เอ็มจะทำมือเป็นสัญลักษณ์โอเคกลับมา ไอ้ตั้มมันปิดประตูและล็อคกลอนก่อนจะส่งกุญแจมาให้ผมเก็บใส่กระเป๋าสะพายข้างที่พี่ตองซื้อให้ผมเป็นของขวัญ
"ไปเร็วกรัมปี้แคท เดี๋ยวพี่ก้องพี่ตังรอนาน"
"เดี๋ยวตั้ม"
ผมเรียกร่างโปร่งที่กำลังเดินไปข้างหน้า เขาหันหลังกลับมาก่อนจะมองผมด้วยสายตาสงสัย
"มีอะไรวะ?"
"กูรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดียังไงไม่รู้ว่ะ"
"เรื่อง?"
"ไม่รู้ดิ รู้แค่ว่ามันไม่ดี"
"มึงอ่ะชอบคิดมากไปเองตลอด ไปได้แล้ว นี่เลยเวลานัดแล้วนะเนี่ย"
มันยกนาฬิกาขึ้นดูก่อนจะเดินนำไปก่อนเช่นทุกครั้ง ผมได้แต่เหลียวหลังไปมองที่ประตูก่อนจะยักไหล่และเดินตามไอ้ตั้มไป...
ถ้าเป็นงั้นจริงก็น่าจะดีนะ...
-End Prince Part-
-Tong Part-
เวลาผ่านไป...
ก็ไม่มีท่าว่าไอ้สองคนนั้นจะกลับมา-_-;
ผมมองดูนาฬิกาที่ติดบนผนังห้องนั่งเล่นเป็นรอบที่ร้อยเห็นจะได้ ตั้มกับปริ๊นไปเล่นบ้านไอ้คู่หื่นนั่นตั้งแต่หัวค่ำจนตอนนี้จะห้าทุ่มครึ่งแล้วก็ยังไม่กลับมา ผมกับพี่เอ็มดูหนังจบไปสองเรื่องจนผมอาบน้ำเสร็จแล้วด้วยซ้ำ
พูดถึงอาบน้ำ ผมก็ลองก้มมองชุดที่ตัวเองใส่แล้วแอบก่นด่าตัวเองในใจว่าคิดได้ไงหยิบมาใส่
พูดได้เลยว่าวันนี้ชุดที่ผมใส่นอนเคะแตกมาก เสื้อกล้ามตัวขนาดพอดีแต่บางและคอกว้างถึงอก ส่วนกางเกงนอนก็บ็อกเซอร์ธรรมดา
รู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในฉากคืนวันแต่งงานในการ์ตูนวายเลยแฮะ...
นี่ผมไม่ได้กำลังจะเสียตัวให้ป๋าของไอ้ตั้มใช่ไหม-_-;
"เฮ้ๆๆ เกิดอะไรขึ้น ทำไมวันนี้กวินทร์บินได้ของเราถึงนุ่งน้อยห่มน้อยแบบนี้ล่ะ"
คิดได้ไม่เท่าไหร่คนที่อยู่ในห้องน้ำก็เดินออกมาพอดีและมองผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม...
"คิดจะยั่วพี่เหรอจ๊ะน้องตอง หืม?"
ไอ้พี่เอ็มถามพลางเลิกคิ้วให้ผมกวนๆ ผมเลยมองค้อนกลับไปให้หนึ่งที
"เก็บคำพูดนั้นไปพูดกะไอ้ตั้มของพี่เถอะ ผมไม่เสียอธิปไตยให้ใครง่ายๆแน่ พี่เข้าใจมั้ยว่าผมจะไม่ยอมเคะเด็ดขาด!!"
ผมว่าพลางยกหมอนขึ้นชี้หน้าพี่เอ็ม เจ้าตัวไม่ตอบอะไรแต่เดินมานั่งอยู่ตรงขาผมและยื่นผ้าขนหนูให้
"เช็ดซะ"
"ทำไมผมต้อง..."
"เร็วๆเลย ปริ๊นก็บอกไม่ใช่เหรอว่าให้เราดูแลกัน"
ให้ดูแลไม่ได้หมายความว่าเป็นทาสนะครับคุณสุทธินันท์...
ผมได้แต่ทำท่าขู่แง่งๆไปแต่มือก็รับผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้คนที่นั่งอยู่ เห็นว่าพี่แกแอบยิ้มชั่วร้าย ทำไมผมจะไม่รู้ว่าพี่เอ็มอยากทำอะไร ก็แกล้งผมเหมือนปกติไงครับ ตั้งแต่สนิทกันมาผมก็โดนพี่เอ็มแกล้งตลอดเวลา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยแม้แต่จะมาร่วมผสมโรงกับชาวบ้านเขาเลยสักนิด ตอนนี้ละเป็นหัวโจกนำทุกคนแกล้งผมทุกอย่าง ฮึ...
"โกรธรึไง ขยุ้มหัวพี่ซะแรงเชียว"
"ขอโทษได้มั้ยละ"
ผมพูดประชดก่อนจะเช็ดหัวพี่เอ็มต่อไป พี่เอ็มทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะนั่งนิ่งแบบเดิม...
"ไปเป่าผมเหอะพี่ เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่แห้งซะที"
"ไม่อ่ะ อยากให้คิงคองเช็ดให้"
"คำก็คิงคองสองคำก็คิงคอง ผมทนไม่ไหวแล้วนะ!!"
"มาสิ อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะเก่งแค่ไหน"
แล้วพวกเราสองคนก็ตะลุมบอนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปมาบนโซฟา เป็นแบบนี้ทุกทีละครับ มีปากเสียงกันทีไรสุดท้ายก็ตีกันทุกที และคงเพราะตีกันบ่อยละมั้ง ผมเลยโดนอีกฝ่ายกำราบเอาได้ง่ายๆเหมือนทุกครั้ง โดยพี่เอ็มจะจับมือผมไพล่หลังและใช้เข่ากดลงบนต้นขาผมแรงๆเพื่อไม่ให้ผมดิ้น แต่คราวนี้มันไม่เหมือนทุกทีนะสิ...
"โอ๊ย!!"
"เฮ้ยเจ็บเหรอ!! พี่ขอโทษ"
"อือออ"
ผมครางตอบพลางกุมต้นขาด้านในของตัวเองไว้ มันปวดหนึบและเจ็บจนน้ำตาไหล ส่วนตัวคนทำไม่ได้แสดงท่าทีอะไร แต่กลับดึงมือผมออกและค่อยๆใช้มือตัวเองอ้าขาผมออก
"ไหนดูซิ"
ว่าจบก็ค่อยๆบีบไล่ไปเรื่อยๆตั้งแต่หน้าขา เข่า ไปจนถึงต้นขาแล้วผมก็ต้องร้องออกมา
"อ๊ะ..."
-End Tong Part-
-Tum Part-
"ไอ้ตั้มกลับเหอะ กูง่วง"
ผมละตาจากหน้าจอโทรทัศน์มามองไอ้ปริ๊นที่เริ่มงอแงผิดไปจากปกติ มันทำตาปรือก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงและฉุดแขนผมให้ลุกขึ้น ผมพยักหน้าเออออก่อนจะลุกขึ้นยืน จริงๆผมเองก็อยากกลับแล้ว แต่ที่อยากกลับไม่ใช่เพราะง่วง... แต่เป็นเพราะพี่ก้องพี่ตังเปิดหนังแม่เบี้ยดูแล้วเริ่มจะเลียนแบบหนังต่างหาก-_-;
"พี่ก้องไม่เอาาา"
พี่ตังปัดป้องพี่ก้องที่กำลังซุกไซ้ซอกคอ
"นิดนึงนะครับ"
พี่ก้องเงยหน้ามาหอมแก้มพี่ตังแล้วซุกคอต่อ
"จั๊กจี๋ อย่ากัดคอ"
พี่ตังบิดตัวไปมา
"ไอ้ตั้มกูง่วงงงงง"
ไอ้ปริ๊นดึงแขนผมเหมือนเด็กและไม่สนใจหนังสดตรงหน้าสักนิด กูไม่ใช่พี่ตองนะจะได้มางอแงใส่ นี่นอกจากเพื่อนผมจะเสียตัวแล้วยังเสียคนด้วยเหรอวะ? #ผิด
ไหนล่ะเสือยิ้มยาก... ไหนล่ะเจ้าชายน้ำแข็ง... ตอนนี้ผมเห็นแต่กรัมปี้แคทหน้าพับอยากนอนแค่นั้นอ่ะ
"เออๆ กลับบ้านๆ กูเองก็ไม่อยากตาเป็นกุ้งยิงตอนเนี้ย ไปก่อนนะพี่ก้องพี่ตัง บ้านโค้ชอยู่ข้างๆก็เบาๆกันหน่อยละกัน"
"เออ ฝากปิดไฟให้ด้วย"
พี่ก้องเงยหน้าขึ้นมารับไหว้ผมกับไอ้ปริ๊นที่โดนผมกดหัวโดยที่มันพนมมือส่งๆไปงั้น ก่อนจะสั่งให้ผมทำหน้าที่ที่ทุกคนที่มาบ้านทั้งสองคนต้องทำก่อนกลับไปตอนดึกๆเช่นตอนนี้ มันเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับสำหรับ #คู่รักคู่หื่น (ติดแฮชแท็กและขีดเส้นใต้ไว้... ว่าเธอไม่รัก//ไม่ใช่ละ) ประจำทีมช้างศึกของพวกผม คนนึงก็เครื่องฟิตสตาร์ทติดง่าย อีกคนก็ดาวยั่วระดับพระกาฬศิษย์ปรมาจารย์อุ้ม พอมาดองกันจะเกิดอะไรขึ้นละครับ...
ก็พยานรักไงฮะ 3คนแล้ว คนโตอยู่เมืองทอง คนกลางอยู่เชียงราย
คนเล็กก็กัปตันU-19ไงครับ นี่ก็คงวางแพลนจะมีคนที่4คนที่5ต่อไปเรื่อยๆเพราะพักนี้ขยันปั๊มกันบ่อยมากกกก ปกติวันละรอบ เดี๋ยวนี้3รอบหลังอาหารครับ บางทีก็มีรอบดึกด้วย สงสัยอีกไม่นานจะมี'ทวีกาญจน์ยูไนเต็ด'อยู่ในไทยลีกแหงๆ-w-
"เชี้ยตั้มมมมม"
โอเค ผมว่าผมหยุดมโนแล้วพากรัมปี้ปริ๊นไปนอนก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่ตองจะมาบ่นให้ฟังอีกว่าพาแฟนกลับห้องช้าแถมทำมันหน้าบูดเป็นตูดเป็ดอีก ขากลับผมนี่แทบต้องอุ้มไอ้เด็กดอยพาดบ่าเพราะสภาพมันไม่ไหวจริงๆ ทำไม? ปกติไอ้พี่คิงคองพาเข้านอน ห่มผ้าป้อนนมเล่านิทานร้องเพลงกู๊ดไนท์คิสต์ก่อนนอนเหรอ? มึงถึงทำหน้าเป็นน้องหมาปวดอึแบบนั้นอ่ะไอ้ปริ๊น-_-
"ถึงบ้านละ รีบเอากุญแจมามึงจะได้ไปนอนซะที"
มันเบ้ปากก่อนจะควานหากุญแจในกระเป๋าสะพายข้างใบโปรด แต่ว่า...
"ไอ้ตั้มกูหากุญแจไม่เจอ"
อ้าวไอ้นี่ หาเรื่องแล้วมั้ยล่ะ กุญแจมีดอกเดียวด้วย
"มึงหาดีรึยัง? คืนนี้กูไม่นอนข้างนอกนะเว้ย"
ผมตั้งสติให้นิ่งที่สุดก่อนจะบอกมันไป
ระหว่างที่กำลังรอไอ้ปริ๊นหากุญแจห้องอยู่นั้น เสียงอิ๊อ๊ะคล้ายๆเสียงครางของใครบางคนที่เล็ดลอดผ่านประตูมาก็ทำให้ผมเอะใจจนต้องแอบเอาหูไปแนบกับประตู ตอนแรกนึกว่าสองคนนั้นแอบเอาหนังอย่างว่ามาเปิดดูในห้อง แต่เมื่อฟังดีๆ...
มันเป็นเสียงของพี่ตอง!!
"ไอ้ตั้ม? มึงฟังอะไรอยู่วะ ทำไมทำหน้าตกใจขนาดนั้น"
ไอ้ปริ๊นมันทำหน้างงๆเมื่อเห็นท่าทีของผม ผมไม่ตอบแต่ดึงแขนมันให้มาแนบหูกับประตูด้วยกัน เสียงนั้นชัดขึ้นเรื่อยๆ
"ป...เป็นไงมั่งพี่เอ็ม มันใหญ่มากมั้ย"
อะไรใหญ่วะ...
"ใหญ่พอสมควรอ่ะ แน่ใจนะว่าจะไม่ให้พี่ทำให้"
ทำอะไรวะ...
"ก็พี่เอ็มทำแรงนี่นา..."
"เออๆ สัญญาว่าจะทำเบาๆละกัน"
ชักไม่ใช่ละ...
"มึงได้ยินเหมือนกูมั้ยปริ๊น?"
"ชัดเจนว่ะ..."
"แล้วมึงจะปล่อยให้สองคนนั้นได้กันเองเหรอ!! รีบเอากุญแจมาเลย!! กูไม่ยอมเสียป๋าให้พี่ตองหรอกนะเว้ย!!"
ผมหันไปเร่งมันก่อนจะเอาหูไปแนบประตูต่อ ไอ้ปริ๊นจากที่ตาปรือๆก็ตาสว่างควานหากุญแจเร็วยิ่งกว่าตุ่นขุดดิน โดยที่ผมก็ได้แต่ลุ้นว่าสองคนนั้นจะทำอะไรต่อ...
'อะไรเจ็บปวดที่สุด?'
ก.ฉันรักผัวเขา
ข.ผัวฉันรักเขา
ค.เขารักผัวฉัน
ง.ผัวเรารักกัน
คำถามนี้ผมกา ง. อย่างไม่ต้องลังเล!!!
"พี่จะทำละนะ..."
"อื้อ ด...เดี๋ยวพี่เอ็ม"
"ไอ้เหี้ยปริ๊นนนนน!!!!!"
"แป๊ป!! กูหากุญแจก่อน!!"
"พี่ตองของมึงซื้อกระเป๋ามิติที่4ให้เหรอวะ!! หากุญแจทียังกะหาอะมีบาในแปซิฟิก!! ในนี้มีโทรศัพท์มั้ย?"
"ไม่...."
"ไม่มีงั้นกูเท!!"
ผมว่าก่อนจะกระชากกระเป๋าออกมาจากมือไอ้ปริ๊นแล้วเทกระจาดลงพื้น ของทุกอย่างกระจายออกหมด แน่นอนว่ากุญแจก็หล่นลงมาด้วย ผมไม่รอช้าหยิบกุญแจขึ้นมาและไขประตูโดยที่ไอ้ปริ๊นก็ก้มๆเงยๆเก็บของใส่กระเป๋า ด้วยความที่ว่าผมเอาหัวแนบกับประตูพร้อมที่จะชนตลอดเวลาเผื่อมันเปิดไม่ออก เลยทำให้ผมได้ยินเสียงข้างในได้ชัดขึ้น...
"พร้อมนะ ไม่ต้องเกร็ง"
"อ๊ะ จ...เจ็บ"
"อย่าครางดังดิ"
"อ๊าาา ก็มันเจ็บจริงๆนี่นา..."
ยิ่งฟังยิ่งปวดร้าว อัลปาก้าจะไม่ทน!!
แกร๊ก!
"เปิดได้ละ!!"
"นับหนึ่งถึงสามมึงเข้าไปเลยนะตั้ม หนึ่ง ส..."
ไม่ต้องรอสองสามผมก็ดับเครื่องชนเข้าไปเลยครับ ประตูเปิดอ้าจนเห็นห้องนั่งเล่นและโซฟาอยู่มุมผนัง ผมกับไอ้ปริ๊นรีบถอดรองเท้าแล้ววิ่งไปหาคนสองคนบนโซฟาทันที!!
"ป๋า/พี่ตองทำอะไรกันอ่ะ!!"
ผมกับไอ้ปริ๊นตะโกนขึ้นพร้อมกัน ทั้งสองคนหันมามองพวกผมอย่างงงๆปนตกใจ แต่คงไม่เท่าพวกผมที่เห็นภาพพี่ตองในสภาพเสื้อกล้ามตัวโคร่งกับบ๊อกเซอร์ตัวเดียวกำลังนอนอ้าขาอยู่บนโซฟาแล้วมีป๋าซึ่งมีแค่ผ้าเช็ดตัวสีขาวคลุมท่อนล่างนั่งคุกเข่าอยู่ตรงกลางหรอก!!
ผมอ้าปากค้าง...
ไอ้ปริ๊นตาโต...
พี่ตองเหงื่อแตก...
ป๋าทำอะไรบางอย่างในมือตก...
ตุบ!
"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!"
แล้วพวกเราก็แหกปากกันอย่างที่เห็นละครับ...
-End Tum Part-
-M Part-
ที่ห้องอาหารกิเลนวัลเลย์ นักฟุตบอลทั้งแคมป์ในชุดนอนต้องมารวมตัวกันที่นี่ในเวลาเที่ยงคืนพอดีเป๊ะตามบัญชาของพี่โก้ เหตุผลก็เพราะเสียงประหลาดความดัง180ล้านเดซิเบลในยามค่ำคืนที่ปลุกทุกคนให้ตื่นจากฝันหวาน ซึ่งเสียงนั้นก็ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนครับ เสียงพวกผมเอง-_-;
"ไหนบอกมาซิว่าพวกแกร้องอะไรกัน"
พี่โก้ในชุดนอนลายหมีพูห์สีฟ้าอ่อนที่นั่งกอดอกอยู่กลางห้องถามด้วยใบหน้าจริงจังแต่ตาปรือสุดฤทธิ์ โดยมีพี่โชคนั่งสัปหงกอยู่กับหมอนข้างลายแพนด้าอยู่ข้างๆ...
อยากจะถ่ายรูปแล้วเอาไปลงIGแทบแย่แต่กลัวโดนฆ่าหมกเขาใหญ่
"ถ้าไม่บอกคืนนี้ซ้อมรอบดึก-*-"
คำขู่ของเฮดโค้ชที่แม้จะอยู่ในชุดหมีพูห์ก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์อยู่ เพราะทั้งไอ้ตอง ตั้ม ผมหรือแม้แต่คนพูดน้อยอย่างไอ้ปริ๊นก็แย่งกันพูดจนพี่โก้ต้องยกมือทำปางห้ามญาติ
"เล่ามาดีๆ ซักคน"
"คือว่า..."
สุดท้ายผมก็ต้องเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้พี่โก้ คุณแฟนที่เคารพและแฟนน้องเข้าใจกันอย่างถ้วนหน้าว่าผมกับไอ้ตองไม่ได้จะป๊ะเท่งป๊ะกัน แต่ผมแค่จะทายาที่แผลตรงต้นขาไอ้ตองที่บวมเท่าลูกมะนาว แล้วเสียงครางของไอ้คนหน้าคิงคองดันอีโรติคจนเด็กอินโนเซนต์สองคนคิดลึกไปก็แค่นั้น...
"สรุปก็คือเป็นการเข้าใจผิดกันสินะ"
พี่โก้ลุกขึ้นยืนก่อนจะถอนหายใจออกมา
"เอาละ แยกย้ายๆ ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้านะทุกคน"
"ผมกับพี่ตองขอแยกบ้านนอนครับ!!"
ไอ้ปริ๊นครับ จู่ๆมันก็โพล่งออกมาพลางเกาะแขนแฟนมันไว้แน่น พี่โก้เกาหัวก่อนจะถามว่า
"อะไรอีกปริ๊น? ก็เคลียร์จบแล้วนี่นา"
"ผมกลัวพี่เอ็มจะไม่อยากจบแค่ทายาน่ะสิครับ!! เผื่อว่าคืนนี้..."
"ไอ้ปริ๊นมึงอย่าเยอะ!! กูไม่กินพี่ตองของมึงหรอก กัดไปก็เจอแต่กล้ามแข็งๆ สู้เนื้ออัลปาก้าก็ไม่ได้..."
"ป๋าาาาา-///-"
ผมหันไปดุไอ้ปริ๊นแต่ก็ยังไม่วายหันมาหยอดใส่อัลปาก้าน้อยกลอยใจ จนเรียกเสียงโห่แซวได้จากคนทั้งทีม
"วุ้ยยย!! ทำผิดแล้วยังจะมาสวีทกันอีก"
"ไอ้พวกที่เขาเรียกกลางดึกแล้วเป็นชีเปลือยนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมาน่ะหุบปากไปเลย"
ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ คู่รักคู่หื่นนั่นเองที่คืนนี้คงจะเล่นผีผ้าห่มกันอีกแล้วเลยมาที่ห้องอาหารในสภาพผ้าเช็ดตัวนุ่งท่อนล่างคนละผืน ทั้งๆที่คนอื่นมาในสภาพชุดเต็มยศ อย่างไอ้อุ้มกับแผ่นมากส์หน้า
ไอ้ต้นที่มัดจุกและโบ๊ะแตงกวาเต็มหน้า
ไอ้เจกับหมอนลายพี่เสือจากซีรี่ย์รักนะเป็ดโง่(หมอนใบนี้ทำเอาไอ้ต้นนอนไม่หลับไปเป็นเดือน) พี่มุ้ยกับผ้าขาวม้าและแป้งทะนาคาโบ๊ะหน้า ลุงกิตที่มาพร้อมกับแปรงสีฟันและขันน้ำที่กระฉอกเต็มพื้นห้องอาหาร แล้วก็3บาสพ่วงด้วยไอ้นิวกับมาม่ารอบดึกและขนมที่พอเลี้ยงคนได้ทั้งแคมป์
นี่แหละเบื้องหลังทีมชาติไทย...
กลับมาที่ประเด็นหลัก ตอนนี้ไอ้คู่หื่นมันงอนผมจนจูงมือกันไปนอนต่อแล้ว คนอื่นๆก็ทยอยตามกันออกไปจนตอนนี้เหลือแค่ผมกับตั้มที่กำลังเดินกลับบ้านพร้อมกันเพราะไอ้ตองก็ต้องช่วยแบกพี่โชคที่หลับลึกสุดๆไปห้องพี่โก้โดยที่ไอ้ปริ๊นเดินตามต้อยๆ
นั่นจึงเป็นโอกาสให้เราได้คุยกันแบบเปิดใจ...
"ป๋าคิดอะไรกะพี่ตองป่ะ"
มาละประเด็นชวนอ้วก
"ก็...น่ารักดีมั้ง?"
"ป๋าาาา"
"ล้อเล่นๆ คนที่น่ารักที่สุดสำหรับป๋าคือตั้มนะครับ"
ผมว่าพลางเอื้อมมือไปลูบหัวร่างบางที่ทำแก้มป่องอย่างแสนงอน ไอ้ตองเนี่ยนะน่ารัก? ขอทีเถอะ...
ผมไม่ยอมให้ใครมาน่ารักกว่าคนตรงหน้าผมแน่ๆ
"แล้วไม่หวั่นไหวกะพี่ตองจริงอ่ะ?"
"ถ้าน้องตั้มจะคิดแบบนี้ไล่ป๋าให้ไปเป็นชู้กับไส้เดือนป๋ายังรู้สึกดีกว่าเลย-^-"
"555 โอ๋ๆๆ ตั้มล้อเล่นคร้าบบบ อย่าไปไหนนะ อยู่ให้ตั้มอ้อนแบบนี้แหละ"
ว่าจบก็โผกอดผมแล้วถูไถหน้าไปกับอกเหมือนลูกแมวน้อย ก็เป็นซะแบบนี้จะไม่ให้ผมรักผมหวงไงได้ละครับ...
"น้องตั้มเองก็ห้ามนอกใจป๋าไปชอบใครเด็ดขาดนะ"
ผมชี้นิ้วคาดโทษร่างบางด้วยแววตาจริงจัง ตั้มส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะควงแขนผมและเอนหัวมาพิงไหล่ขณะที่เดินไปด้วยกัน
"ก็หัวใจตั้มอยู่กับป๋า จะให้นอกใจไปหาใครละครับ..."
"ปากหวานอย่างนี้อยากได้อะไรจากป๋าเป็นพิเศษรึเปล่าเนี่ย?"
ผมถามขณะที่กำลังไขกุญแจเข้าบ้านโดยที่ตั้มยังคงคล้องแขนผมไว้อย่างนั้น ตั้มโอบรอบคอผมแล้วพาเข้าห้องนอนที่มืดสนิท ตั้มทิ้งตัวลงบนที่นอนในขณะที่ผมเปิดโคมไฟหัวเตียงและนอนลงข้างๆ
"ไม่อยากได้อะไรมาก แค่นอนกอดตั้มเหมือนทุกที"
"สำหรับตั้มป๋าให้ได้เสมอครับ ว่าแต่ไม่อาบน้ำเหรอ?"
"ไม่เอา เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่ได้นอนกันพอดี"
ตั้มยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเหมือนกับกำลังรู้ว่าผมคิดจะทำอะไร...
ไม่ต้องห่วงหรอกเบบี๋ วันนี้ไม่โดนฟัดเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็โดน-.,-
ผมปิดไฟหัวเตียงและค่อยๆขยับเข้าไปนอนห่มผ้าผืนเดียวกับตั้มแล้วยกหัวของคนตัวเล็กให้ใช้แขนผมหนุนต่างหมอน ก่อนจะเริ่มใช้มือข้างเดียวกับแขนที่โดนหนุนลูบหัวตั้มช้าๆและใช้มืออีกข้างโอบรอบตัวโดยที่มือของตั้มทาบเบาๆที่อกผม...
ผมหวังว่าตั้มจะรับรู้ได้ถึงจังหวะหัวใจของผมที่กำลังเต้นตามลมหายใจของเขา...
ไม่สิ ตามลมหายใจของเราต่างหาก...
-End M Part-
Special Tong*Prince (Tong Say)
"เฮ้ออออ"
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากที่วางไอ้ปริ๊นลงบนเตียง สงสัยใช่มั้ยครับว่าตอนแรกผมแบกพี่โชคกลับบ้านพักแต่ไหงกลายเป็นไอ้ปริ๊นที่ถูกวางลงบนเตียงได้ หึๆๆ ก็มันเดินตามผมไปบ้านพักพี่โก้ไงครับพร้อมสติสตังที่แทบไม่มีของมันน่ะแหละ ขากลับผมเลยต้องแบกมันมาส่งถึงเตียง แล้วเห็นมันตัวเล็กๆงี้ใช่ว่าตัวเบานะครับ เล่นเอาหอบกินเหมือนกัน ผมค่อยๆเดินไปว่าจะปลุกไอ้คนที่นอนหลับอยู่ แต่เสียงของมันก็ทำให้ผมหยุดการกระทำทั้งหมด
"พี่ตองห้ามนะ ห้ามไปชอบพี่เอ็มนะ..."
สิ่งที่มันละเมอออกมาทำเอาผมกลั้นขำแทบไม่ทัน นี่คิดมากจนเก็บเอาไปฝันเลยเหรอเนี่ย?
ก็นะ... พักหลังๆมันติดผมจะตาย อยู่ดีๆบางทีมีมาหอมมาจุ๊บแก้มมากอดซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างปริ๊นมันจะกล้าทำ ตอนแรกๆก็ทำตอนอยู่กันแค่สองคน แต่หลังๆมากอดเอาหอมเอาจนผมแทบช้ำไปทั้งตัว แต่ผมก็คงคิดว่าเพราะความผูกพันที่มากขึ้นทุกวันเลยทำให้เรากล้าที่จะแสดงออกมากขึ้น
ไม่ใช่ว่าอยากอวดใครๆ แต่เพราะเรามีความสุขที่ได้ใกล้ชิดกัน...
แล้วความสุขของผมอยู่ตรงนี้ ผมจะมีเหตุผลอะไรที่จะทิ้งมันไป จริงไหมครับ?
"กูจะไม่ทิ้งมึงไปหาไอ้พี่เอ็มนั่นแน่ๆปริ๊น จะไม่ไปหาใครด้วย เพราะมึงคือครึ่งชีวิตของกู จำไว้"
พูดก็เหมือนพูดคนเดียวเพราะครึ่งชีวิตของผมหลับปุ๋ยฝันหวานไปเรียบร้อย ชอบนะเวลาปริ๊นหลับ เพราะเป็นช่วงเวลาที่มันดูไร้เดียงสาที่สุด...
ผมค่อยๆลูบผมมันเบาๆ ห่มผ้าให้แล้วจุมพิตที่หน้าผาก ก่อนจะปิดท้ายด้วยการใช้จมูกของตัวเองเขี่ยจมูกมันเบาๆ ลมหายใจเล็กๆที่ส่งผ่านมายังใบหน้าทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก...
เพราะลมหายใจนี้แหละที่มาช่วยทำให้คนใกล้หมดลมหายใจอย่างผมมีชีวิตใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง...
เสี่ยวจัด
"ฝันดีนะครับ กรัมปี้แคทของคิงคอง"
ผมเอ่ยยิ้มๆแล้วเดินไปยังเตียงฝั่งตัวเองก่อนจะปิดไฟหัวเตียงแล้วเข้าสู่ฝีนหวานของตัวเองบ้าง...
ฝันหวาน ที่ผมกับปริ๊นจะอยู่ด้วยกันตลอดไป...
Sweet Dreamครับ
THE END
[ช่วง ไรท์เตอร์ขี้ฝอย]
ติดตามผลงานของไรท์เตอร์ได้2ช่องทาง ทั้งในบล็อกเกอร์และเว็บเด็กดี http://writer.dek-d.com/skyscrapers/ นะคะ ขอบคุณค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น